วิธีการเลือกยางรถยนต์ขอบ 17 2567 เมื่อไรควรเปลี่ยนยางรถยนต์

วิธีการเลือกยางรถยนต์ขอบ 17 2567 เมื่อไรควรเปลี่ยนยางรถยนต์ ยางรถยนต์เป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งของรถยนต์ที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นอุปกรณ์เพียงส่วนเดียวที่สัมผัสกับพื้นถนนโดยตรง มีหน้าที่ในการรองรับน้ำหนักรถยนต์ ถ่ายทอดแรงขับเคลื่อน และทำให้เกิดการทรงตัว หากยางรถยนต์อยู่ในสภาพที่ไม่พร้อมใช้งาน ก็อาจก่อให้เกิดอันตรายบนท้องถนนได้ ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำวิธีการเลือกยางรถยนต์ขอบ 17 2567 และบอกให้ทราบว่าเมื่อใดจึงควรเปลี่ยนยางรถยนต์ วิธีการเลือกยางรถยนต์ขอบ 17 2567 1. ขนาดยาง ขนาดยางรถยนต์จะบอกถึงความกว้างของหน้ายาง ความสูงของแก้มยาง และขนาดของขอบล้อ ตัวอย่างเช่น ยางรถยนต์ขนาด 215/55 R17 หมายความว่า ยางมีความกว้าง 215 มิลลิเมตร, มีแก้มยางสูง 55% ของความกว้างยาง และใช้กับขอบล้อขนาด 17 นิ้ว 2. ประเภทของยาง ยางรถยนต์มีหลายประเภท แต่ละประเภทมีจุดเด่นและจุดด้อยแตกต่างกันไป เช่น ยางเรเดียล: เป็นยางที่นิยมใช้มากที่สุดในปัจจุบัน มีโครงสร้างที่แข็งแรง ทนทาน และให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ ยางไบแอส: เป็นยางที่มีโครงสร้างแบบไขว้ มีความยืดหยุ่นสูง แต่มีแรงต้านทานการหมุนต่ำกว่ายางเรเดียล ยางรันแฟลต: เป็นยางที่สามารถวิ่งได้แม้จะแบน โดยจะใช้แก้มยางที่แข็งแรงกว่าปกติมารองรับน้ำหนักรถยนต์ […]

วิธีการเลือกยางรถยนต์ขอบ 17 2567 เมื่อไรควรเปลี่ยนยางรถยนต์

ยางรถยนต์เป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งของรถยนต์ที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นอุปกรณ์เพียงส่วนเดียวที่สัมผัสกับพื้นถนนโดยตรง มีหน้าที่ในการรองรับน้ำหนักรถยนต์ ถ่ายทอดแรงขับเคลื่อน และทำให้เกิดการทรงตัว หากยางรถยนต์อยู่ในสภาพที่ไม่พร้อมใช้งาน ก็อาจก่อให้เกิดอันตรายบนท้องถนนได้ ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำวิธีการเลือกยางรถยนต์ขอบ 17 2567 และบอกให้ทราบว่าเมื่อใดจึงควรเปลี่ยนยางรถยนต์

วิธีการเลือกยางรถยนต์ขอบ 17 2567

1. ขนาดยาง

ขนาดยางรถยนต์จะบอกถึงความกว้างของหน้ายาง ความสูงของแก้มยาง และขนาดของขอบล้อ ตัวอย่างเช่น ยางรถยนต์ขนาด 215/55 R17 หมายความว่า ยางมีความกว้าง 215 มิลลิเมตร, มีแก้มยางสูง 55% ของความกว้างยาง และใช้กับขอบล้อขนาด 17 นิ้ว

2. ประเภทของยาง

ยางรถยนต์มีหลายประเภท แต่ละประเภทมีจุดเด่นและจุดด้อยแตกต่างกันไป เช่น

ยางเรเดียล: เป็นยางที่นิยมใช้มากที่สุดในปัจจุบัน มีโครงสร้างที่แข็งแรง ทนทาน และให้ความนุ่มนวลในการขับขี่
ยางไบแอส: เป็นยางที่มีโครงสร้างแบบไขว้ มีความยืดหยุ่นสูง แต่มีแรงต้านทานการหมุนต่ำกว่ายางเรเดียล
ยางรันแฟลต: เป็นยางที่สามารถวิ่งได้แม้จะแบน โดยจะใช้แก้มยางที่แข็งแรงกว่าปกติมารองรับน้ำหนักรถยนต์

3. ยี่ห้อและรุ่นของยาง

ยี่ห้อและรุ่นของยางมีผลต่อคุณภาพและราคา ยี่ห้อที่มีชื่อเสียงมักจะผลิตยางที่มีคุณภาพดีกว่า แต่ราคาอาจสูงกว่ายี่ห้อที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียง ดังนั้น ควรเลือกยางที่เหมาะสมกับงบประมาณและความต้องการใช้งาน

4. ลายดอกยาง

ลายดอกยางมีหน้าที่ในการยึดเกาะถนนและระบายน้ำออกจากหน้ายาง ยางรถยนต์แต่ละประเภทจะมีลายดอกยางที่แตกต่างกันไป เช่น

ลายดอกยางแบบสมมาตร: มีลักษณะดอกยางที่เหมือนกันทั้งสองด้าน ให้ความนุ่มนวลในการขับขี่และมีเสียงรบกวนต่ำ
ลายดอกยางแบบไม่สมมาตร: มีลักษณะดอกยางที่แตกต่างกันทั้งสองด้าน ให้การยึดเกาะที่ดีเยี่ยมในทุกสภาพถนน
ลายดอกยางแบบทิศทาง: มีลักษณะดอกยางที่เป็นไปในทิศทางเดียว ให้การยึดเกาะที่ดีเยี่ยมบนถนนเปียก แต่มีเสียงรบกวนสูง

5. วันที่ผลิต

ยางรถยนต์จะมีอายุการใช้งานประมาณ 4-6 ปี นับจากวันที่ผลิต ดังนั้น ควรเลือกยางที่ผลิตไม่เกิน 2 ปี เพื่อให้มั่นใจว่ายางยังคงอยู่ในสภาพที่ดี

เมื่อไรควรเปลี่ยนยางรถยนต์

ยางรถยนต์ควรเปลี่ยนเมื่อ:

ดอกยางมีความลึกน้อยกว่า 1.6 มิลลิเมตร
แก้มยางมีรอยฉีกขาดหรือบวม
ยางเก่าเกิน 6 ปี
ยางบวมหรือผิดรูป
ยางสูญเสียแรงดันลมอย่างรวดเร็ว

ตารางราคาโดยประมาณ

ขนาดยาง	ประเภทยาง	ยี่ห้อ	ราคาโดยประมาณ (บาท)
215/55 R17	เรเดียล	มิชลิน	4,000-6,000
215/55 R17	ไบแอส	บริดจสโตน	2,500-4,000
215/55 R17	รันแฟลต	กู๊ดเยียร์	5,000-7,000

สรุป

การเลือกยางรถยนต์ขอบ 17 2567 ที่เหมาะสมจะช่วยให้รถยนต์ของคุณมีความปลอดภัยและขับขี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากยางรถยนต์อยู่ในสภาพที่ไม่พร้อมใช้งาน อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ ดังนั้น จึงควรตรวจสอบสภาพยางรถยนต์เป็นประจำ และเปลี่ยนยางเมื่อจำเป็น