ยาง Michelin แนะนำ 2567 ควรเปลี่ยนยางเมื่อไร รวมวิธีการสังเกตเมื่อยางรถเริ่มเสื่อมสภาพ

ยาง Michelin แนะนำ 2567 ควรเปลี่ยนยางเมื่อไร รวมวิธีการสังเกตเมื่อยางรถเริ่มเสื่อมสภาพ เปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่เมื่อไรดี นับเป็นคำถามยอดฮิตของผู้ใช้รถยนต์ เพราะนอกจากจะมีผลต่อความปลอดภัยในการขับขี่แล้ว เรื่องงบประมาณก็เป็นปัจจัยสำคัญเช่นกัน สำหรับบทความนี้ Michelin จะมาแนะนำวิธีสังเกตยางรถยนต์เมื่อเริ่มเสื่อมสภาพ รวมถึงปัจจัยที่จะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนยางหรือยัง เมื่อไรถึงเวลาเปลี่ยนยางรถยนต์ ระบุวันที่ผลิตยาง ยางรถยนต์จะมีอายุการใช้งานประมาณ 5 ปี นับตั้งแต่วันผลิต ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จากตัวเลข 4 หลักบนแก้มยาง โดย 2 หลักแรกแสดงสัปดาห์ที่ผลิต ส่วน 2 หลักหลังคือปีที่ผลิต เช่น ยางที่มีตัวเลข 1221 หมายความว่าผลิตในสัปดาห์ที่ 12 ของปี 2021 ดอกยางสึกหรอมาก ดอกยางมีหน้าที่ในการยึดเกาะถนน ซึ่งเมื่อดอกยางสึกหรอจนถึงระดับที่กำหนด ถือเป็นสัญญาณว่าต้องเปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่ โดยสามารถสังเกตได้ง่ายๆ จากแถบยางที่อยู่บนดอกยาง เมื่อดอกยางสึกหรอจนถึงแถบยาง แสดงว่าถึงเวลาเปลี่ยนยาง แก้มยางบวมหรือแตกร้าว เมื่อแก้มยางเริ่มเสื่อมสภาพอาจเกิดจากการใช้งานหนัก หรือการขับรถกระแทกหลุมแรงๆ ซึ่งหากปล่อยไว้อาจทำให้แก้มยางฉีกขาดและเกิดอุบัติเหตุได้ ยางแข็งหรือกรอบ ยางรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานมานานจะเริ่มแข็งและกรอบ ซึ่งสังเกตได้จากการที่ยางไม่ยืดหยุ่นเมื่อกด โดยจะรู้สึกแข็งกระด้าง ความดันลมยางผิดปกติ หากความดันลมยางอ่อนหรือแข็งเกินไป อาจทำให้ยางสึกหรอไม่สม่ำเสมอ […]

ยาง Michelin แนะนำ 2567 ควรเปลี่ยนยางเมื่อไร รวมวิธีการสังเกตเมื่อยางรถเริ่มเสื่อมสภาพ

เปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่เมื่อไรดี นับเป็นคำถามยอดฮิตของผู้ใช้รถยนต์ เพราะนอกจากจะมีผลต่อความปลอดภัยในการขับขี่แล้ว เรื่องงบประมาณก็เป็นปัจจัยสำคัญเช่นกัน สำหรับบทความนี้ Michelin จะมาแนะนำวิธีสังเกตยางรถยนต์เมื่อเริ่มเสื่อมสภาพ รวมถึงปัจจัยที่จะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนยางหรือยัง

เมื่อไรถึงเวลาเปลี่ยนยางรถยนต์

ระบุวันที่ผลิตยาง ยางรถยนต์จะมีอายุการใช้งานประมาณ 5 ปี นับตั้งแต่วันผลิต ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จากตัวเลข 4 หลักบนแก้มยาง โดย 2 หลักแรกแสดงสัปดาห์ที่ผลิต ส่วน 2 หลักหลังคือปีที่ผลิต เช่น ยางที่มีตัวเลข 1221 หมายความว่าผลิตในสัปดาห์ที่ 12 ของปี 2021
ดอกยางสึกหรอมาก ดอกยางมีหน้าที่ในการยึดเกาะถนน ซึ่งเมื่อดอกยางสึกหรอจนถึงระดับที่กำหนด ถือเป็นสัญญาณว่าต้องเปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่ โดยสามารถสังเกตได้ง่ายๆ จากแถบยางที่อยู่บนดอกยาง เมื่อดอกยางสึกหรอจนถึงแถบยาง แสดงว่าถึงเวลาเปลี่ยนยาง
แก้มยางบวมหรือแตกร้าว เมื่อแก้มยางเริ่มเสื่อมสภาพอาจเกิดจากการใช้งานหนัก หรือการขับรถกระแทกหลุมแรงๆ ซึ่งหากปล่อยไว้อาจทำให้แก้มยางฉีกขาดและเกิดอุบัติเหตุได้
ยางแข็งหรือกรอบ ยางรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานมานานจะเริ่มแข็งและกรอบ ซึ่งสังเกตได้จากการที่ยางไม่ยืดหยุ่นเมื่อกด โดยจะรู้สึกแข็งกระด้าง
ความดันลมยางผิดปกติ หากความดันลมยางอ่อนหรือแข็งเกินไป อาจทำให้ยางสึกหรอไม่สม่ำเสมอ หรือเพิ่มโอกาสในการเกิดระเบิดได้

วิธีการสังเกตยางรถยนต์เสื่อมสภาพ

นอกจากการพิจารณาตามปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ยังมีวิธีสังเกตอื่นๆ ที่ช่วยให้รู้ว่ายางรถยนต์เสื่อมสภาพหรือไม่ ได้แก่

สั่นสะเทือนขณะขับขี่ เมื่อขับรถด้วยความเร็วสูงแล้วรู้สึกว่าพวงมาลัยสั่นหรือรถสั่น ควรตรวจสอบว่าเกิดจากยางรถยนต์เสื่อมสภาพหรือไม่
การทรงตัวไม่ดี หากขับรถแล้วรู้สึกว่ารถลื่น หรือควบคุมรถได้ยาก อาจเกิดจากดอกยางสึกหรอจนเกาะถนนได้ไม่ดี
เสียงยางดัง เมื่อขับรถและได้ยินเสียงดังจากยาง ควรตรวจสอบว่าเกิดจากยางสึกหรอหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสียงหอนหรือเสียงบด
ระยะเบรกยาวขึ้น ยางรถยนต์เสื่อมสภาพจะทำให้การยึดเกาะถนนลดลง ส่งผลให้ระยะเบรกลดลง

ราคาเปลี่ยนยางรถยนต์

ราคาเปลี่ยนยางรถยนต์จะแตกต่างกันไปตามยี่ห้อ ขนาด และประเภทของยาง โดยราคาโดยประมาณมีดังนี้

ขนาดยาง	ยี่ห้อ	ประเภทยาง	ราคาโดยประมาณ
195/65 R15	Michelin	Primacy 4	2,500 – 3,000 บาท
205/55 R16	Bridgestone	Ecopia EP300	2,800 – 3,500 บาท
215/60 R17	Yokohama	Advan Sport V105	3,000 – 4,000 บาท
225/55 R18	Goodyear	Eagle F1 Asymmetric 5	3,500 – 4,500 บาท
235/65 R19	Continental	PremiumContact 6	4,000 – 5,000 บาท

หมายเหตุ: ราคาดังกล่าวเป็นราคาโดยประมาณเท่านั้น อาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับร้านที่ให้บริการ

สรุป

การเปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่เมื่อไรเป็นเรื่องสำคัญต่อความปลอดภัยในการขับขี่ โดยควรสังเกตสัญญาณต่างๆ ที่บ่งชี้ว่ายางรถยนต์เสื่อมสภาพ เช่น ดอกยางสึกหรอ แก้มยางบวมหรือแตกร้าว ยางแข็งหรือกรอบ ความดันลมยางผิดปกติ เป็นต้น หากพบสัญญาณเหล่านี้ แนะนำให้เปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่ทันทีเพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเองและผู้อื่น