ยาง Michelin แนะนำ 2567 เมื่อไรควรเปลี่ยนยางรถยนต์
ยาง Michelin แนะนำ 2567 เมื่อไรควรเปลี่ยนยางรถยนต์ การหมั่นตรวจสอบยางรถยนต์เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากสำหรับความปลอดภัยในการขับขี่ แต่หลายคนอาจไม่ทราบว่าควรเปลี่ยนยางรถยนต์เมื่อใด วันนี้ Michelin ยางรถยนต์อันดับหนึ่งของโลก ขอแนะนำแนวทางในการตรวจสอบเมื่อไรควรเปลี่ยนยางรถยนต์ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ของคุณ การสังเกตสภาพดอกยาง ค่าดัชนีการสึกหรอของดอกยาง (TWI) เป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญที่สุด อยู่บริเวณดอกยางหลัก 6 จุดบนหน้ายาง เมื่อดอกยางสึกหรอจนระดับต่ำกว่า TWI แสดงว่าถึงเวลาเปลี่ยนยาง了 ความลึกของร่องดอกยาง ควรลึกกว่า 1.6 มิลลิเมตร มิฉะนั้นจะทำให้รถเสี่ยงต่อการลื่นไถลบนถนนเปียก ดอกยางสึกไม่สม่ำเสมอ อาจเกิดจากการตั้งศูนย์ล้อมาไม่ดีหรือปัญหาช่วงล่าง ล้อสึกเป็นคลื่นหรือเป็นบั้ง ดอกยางสึกเป็นหยัก เกิดจากการเบรกกระทันหันบ่อยๆ แสดงว่าควรเปลี่ยนยางพร้อมทั้งตรวจสอบระบบเบรก การตรวจสอบสภาพยาง รอยปริหรือรอยแตกลายงา บริเวณขอบยางหรือแก้มยาง อาจเกิดจากการใช้งานมาเป็นเวลานาน การรับน้ำหนักมากเกินไป หรือการขับรถบนถนนที่ขรุขระ ควรเปลี่ยนยางโดยด่วน ตุ่มหรือรอยโป่งบริเวณแก้มยาง อาจเกิดจากการกระแทกของแข็งอย่างแรง เช่น การตกหลุมหรือขับชนฟุตปาท ควรหยุดรถและตรวจสอบโดยด่วน อาจใช้ยางอะไหล่แทนหากยังพอใช้ได้ การแตกลายบริเวณขอบยาง แสดงว่ายางเริ่มเสื่อมสภาพ อาจทำให้เกิดเสียงดังขณะขับขี่ ควรเปลี่ยนยางใหม่โดยเร็วที่สุด การบวมบริเวณแก้มยาง อาจเกิดจากความร้อนสูงหรือรับน้ำหนักมากเกินไป ควรหยุดรถและเปลี่ยนยางอะไหล่โดยทันที เพราะอาจเกิดการระเบิดของยางได้ ลักษณะอื่นๆ […]
ยาง Michelin แนะนำ 2567 เมื่อไรควรเปลี่ยนยางรถยนต์
การหมั่นตรวจสอบยางรถยนต์เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากสำหรับความปลอดภัยในการขับขี่ แต่หลายคนอาจไม่ทราบว่าควรเปลี่ยนยางรถยนต์เมื่อใด วันนี้ Michelin ยางรถยนต์อันดับหนึ่งของโลก ขอแนะนำแนวทางในการตรวจสอบเมื่อไรควรเปลี่ยนยางรถยนต์ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ของคุณ
การสังเกตสภาพดอกยาง
- ค่าดัชนีการสึกหรอของดอกยาง (TWI) เป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญที่สุด อยู่บริเวณดอกยางหลัก 6 จุดบนหน้ายาง เมื่อดอกยางสึกหรอจนระดับต่ำกว่า TWI แสดงว่าถึงเวลาเปลี่ยนยาง了
- ความลึกของร่องดอกยาง ควรลึกกว่า 1.6 มิลลิเมตร มิฉะนั้นจะทำให้รถเสี่ยงต่อการลื่นไถลบนถนนเปียก
- ดอกยางสึกไม่สม่ำเสมอ อาจเกิดจากการตั้งศูนย์ล้อมาไม่ดีหรือปัญหาช่วงล่าง ล้อสึกเป็นคลื่นหรือเป็นบั้ง
- ดอกยางสึกเป็นหยัก เกิดจากการเบรกกระทันหันบ่อยๆ แสดงว่าควรเปลี่ยนยางพร้อมทั้งตรวจสอบระบบเบรก
การตรวจสอบสภาพยาง
- รอยปริหรือรอยแตกลายงา บริเวณขอบยางหรือแก้มยาง อาจเกิดจากการใช้งานมาเป็นเวลานาน การรับน้ำหนักมากเกินไป หรือการขับรถบนถนนที่ขรุขระ ควรเปลี่ยนยางโดยด่วน
- ตุ่มหรือรอยโป่งบริเวณแก้มยาง อาจเกิดจากการกระแทกของแข็งอย่างแรง เช่น การตกหลุมหรือขับชนฟุตปาท ควรหยุดรถและตรวจสอบโดยด่วน อาจใช้ยางอะไหล่แทนหากยังพอใช้ได้
- การแตกลายบริเวณขอบยาง แสดงว่ายางเริ่มเสื่อมสภาพ อาจทำให้เกิดเสียงดังขณะขับขี่ ควรเปลี่ยนยางใหม่โดยเร็วที่สุด
- การบวมบริเวณแก้มยาง อาจเกิดจากความร้อนสูงหรือรับน้ำหนักมากเกินไป ควรหยุดรถและเปลี่ยนยางอะไหล่โดยทันที เพราะอาจเกิดการระเบิดของยางได้
ลักษณะอื่นๆ ที่ควรถือเป็นสัญญาณเปลี่ยนยาง
- การสั่นสะเทือนหรือเสียงดังผิดปกติ ขณะขับขี่ อาจเกิดจากความไม่สมดุลของล้อ หรือยางบวม
- รถลื่นไถลง่าย โดยเฉพาะบนถนนเปียก
- มีแรงดึงหรือดึงพวงมาลัย เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วคงที่ อาจเกิดจากความดันลมยางไม่เท่ากันหรือยางสึกไม่สม่ำเสมอ
ตารางราคายาง Michelin
รุ่นยาง | ขนาดยาง | ราคา |
---|---|---|
MICHELIN Primacy 4+ | 205/55R16 | 4,800 บาท |
MICHELIN Pilot Sport 5 | 225/50R17 | 5,900 บาท |
MICHELIN ENERGY XM2+ | 195/55R15 | 3,800 บาท |
MICHELIN LTX Trail | 265/65R17 | 7,200 บาท |
MICHELIN Defender T+H | 205/65R16 | 4,400 บาท |
สรุป
การตรวจสอบสภาพยางรถยนต์เป็นประจำจะช่วยให้คุณขับขี่ได้อย่างปลอดภัยและป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ การเปลี่ยนยางใหม่เมื่อถึงเวลาจะช่วยให้รถของคุณเกาะถนนได้ดี ลดระยะเบรก และเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมรถ โดยยางคุณภาพสูงจาก Michelin จะช่วยมอบการขับขี่ที่นุ่มนวล เงียบ และปลอดภัยสำหรับคุณและผู้โดยสาร
คำหลัก
- ยางรถยนต์ Michelin
- เมื่อไรควรเปลี่ยนยาง
- สัญญาณเปลี่ยนยาง
- ดอกยางสึกหรอ
- ความปลอดภัยในการขับขี่